Dtac ตอบปัญหาข้องใจลูกค้า Trinet
Dtac ได้มีการเชิญทาง droidsans ไปร่วมงานพูดคุยและชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินงานของ Dtac ซึ่งหลังๆในโลก Online ค่อนข้างจะมีเสียงก่นด่ามาค่อนข้างเยอะ แต่หลายๆอย่างทาง Dtac อาจจะไม่สะดวกออกมาพูดเองจึงอยากฝากหลายๆอย่างผ่านพวกเราครับ จึงขอคัดเฉพาะอะไรที่น่าสนใจมาให้ได้อ่านกันว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และมาร่วมถกกันว่าข้อมูลที่ทาง Dtac ตอบปัญหาต่างๆนั้นถูกใจเพื่อนๆหรือไม่กันครับ
- Dtac ไม่ได้อยู่ในช่วงยากลำบากอย่างที่หลายๆคนบอกกันใน Social Network แต่เป็นบริษัทเดียวที่มีรายได้เติบโตมากขึ้นด้วยซ้ำ
- Trinet ตอนนี้มีคนลงทะเบียนขอย้ายเครือข่ายแล้วกว่า 3.5 ล้านคน
- มีลูกค้าอยู่บนเครือข่ายแล้วมากกว่า 4 แสนราย และกำลังเพิ่มมากขึ้น 6 หมื่นคนต่อวัน (ไม่รวมเสาร์อาทิตย์ และหยุดราชการ)
- ลูกค้าทั้งหมดจะถูกย้ายมาบน Trinet ภายในเดือนกันยายน โดยจะมีเงื่อนไขในการย้ายโดยดูจากว่ามีการใช้งานบริการเสริมใดๆที่ยังไม่พร้อมบน Trinet หรือไม่
- การคัดเลือกว่าใครจะได้ย้ายมาบน Trinet จะดูจากว่าเครื่องนั้นๆมีบริการอะไรที่ไม่รองรับบน Trinet หรือเปล่า เช่น หากเราเดินทางบ่อย Trinet ยังไม่พร้อมให้บริการ International Roaming (IR) แบบสมบูรณ์ คนๆนั้นก็จะไม่ได้ย้าย
- เงื่อนไขที่ Dtac ตั้งไว้จะมีเรื่อง IR, Multi SIM, ตัดผ่านบัตรเครดิตอัตโนมัติ (ไม่แน่ใจว่ามีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า)
- การคัดเลือกว่าใครจะได้ย้ายก่อน-หลังจะเป็นแบบใครมาก่อนได้ก่อน (แต่ข้อนี้เหมือนจะถกเถียงกันว่าไม่ใช่แน่ๆ)
- ลูกค้าที่ย้ายไปใช้ Trinet อาจจะมีปัญหา IR แต่สามารถแก้ได้ด้วยการไปขอซิมใหม่
- ลูกค้าที่ย้ายไปใช้ Trinet จะยังไม่สามารถใช้บริการตัดเงินผ่านบัตรเครดิตแบบอัตโนมัติได้
- การที่ Dtac เปิดช้าเพราะต้องการควบคุมคุณภาพให้มีปัญหาน้อยที่สุด (จริงมั้ย มาบอกหน่อย)
- ปัญหาสายหลุดหรือใช้งานไม่ได้ในบางช่วง อาจจะไม่ได้เกิดจาก Trinet แต่เป็นเพราะกรณีอื่น
- มีเสา 3G วางไปแล้วกว่า 8200 ต้น โดยแบ่งเป็น 3G 850MHz 5200ต้น และ 3G 2100MHz 3000ต้น
- 3G 850MHz วางไปแล้วกว่า 60% ของพื้นที่ ส่วน 3G 2100MHz กำลังค่อยๆผุดขึ้นมาตามหัวเมืองใหญ่
- เสา 1800MHz เป็นเสาที่มีการวางไว้เยอะสุดของ Dtac กินพื้นที่มากที่สุด แต่ว่าใช้งานได้เพียง 2G เท่านั้น
- เสาที่ Dtac จะเน้นและวางเพิ่มในอนาคตคือเสา 2100MHz
- Dtac ไม่รีบเปิด Trinet เพราะว่าไม่ได้มีข้อจำกัดมากอย่าง AIS ที่ช่องสัญญานเดิมมีไม่พอ และกำลังจะหมดอายุสัมปทาน
อื่นๆเพิ่มเติมให้
การขอ SIM ใหม่เพื่อทำ IR ได้สมบูรณ์นั้น เกิดจากปัญหาว่าเมื่อมีการเปิดเครือข่ายใหม่ขึ้นมาให้บริการ ทางโอเปอร์เรเตอร์ต้องไปทำเอกสารกับทางประเทศอื่นทั่วโลกใหม่หมด จะใช้สัญญาเดิมไม่ได้ เมื่อเปลี่ยนซิมแล้ว ซิมใหม่จะสามารถทำงานโหมด Dual Agency ได้ กล่าวคือจำลองตัวเองเป็นเหมือนว่าเราใช้ Dtac เครือข่ายเก่าอยู่ จึงทำให้สามารถ Roaming กับเครือข่ายอื่นทั่วโลกได้ตามปกติครับ
ปัญหากินแบตเมื่อย้ายไป Trinet อาจจะเกิดจากเสาสัญญาน 2100MHz ที่ยังวางไม่ครอบคลุม รวมถึงเรื่องการปรับจูนเสาสัญญานให้ทำงานได้เข้ากับเครื่องที่ใช้งานในประเทศ จึงทำให้เครื่องโทรศัพท์ต้องออกแรงเพื่อรับสัญญานมากกว่าปกติ ซึ่งอาการนี้เป็นกันทุกค่าย แต่ว่าจะค่อยๆดีขึ้นเมื่อมีการวางเสาสมบูรณ์ และช่วงนี้เราอาจจะได้เห็นว่าเมื่อเครื่องเราทำการโทรออกจะมีการปรับเครือข่ายไปใช้ 2G ตลอดเวลานั่นก็เพื่อให้เสาสัญญาน 3G ไม่โหลดการทำงานหนักเกินไป และเพื่อลดอาการสายหลุด แต่นั่นหมายถึงว่าเราก็จะอดใช้งาน data ระหว่างคุยไปด้วย ซึ่งทาง dtac บอกว่าเมื่อวางเสาสัญญานเรียบร้อยดีแล้ว จะไม่ต้องทำการย้ายไปๆมาๆเหมือนเดิม
ทำไม Dtac ถึงทำ Trinet ทำไมผู้ให้บริการรายอื่นไม่ทำบ้าง?
ในที่นี้จะไม่นับรวมทรูเพราะเค้าได้ลงทุนกับ 3G 850MHz ไปเต็มแม็กซ์แล้ว แต่ถ้ามองในด้านของ AIS ก็จะมีอายุสัมปทานเหลืออีกเพียง 2 ปีเท่านั้น (หมดในปี 2558) แต่ Dtac สัมปทานคลื่น 850/1800 MHz นั้นได้ยาวถึงปี 2561 เลยทีเดียว
4G Dtac เอาอย่างไร จะทำหรือเปล่า?
ตามที่ได้คุยมาเห็นว่า 4G Dtac กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยังไม่ตัดสินใจอะไรแบบแน่ชัด เพราะแทนที่จะทำ 4G ที่อุปกรณ์ในตลาดมีไม่มากพอ และมีแต่ราคาสูงๆทั้งนั้นอาจจะยังไม่มีลูกค้าที่มากพอที่จะลงทุน รวมถึงจะทำให้แทนที่จะทำให้ 3G เสร็จสมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ กลับต้องล่าช้าลงไป และที่สำคัญ 4G 2100MHz ไม่ใช่คลื่นความถี่มาตรฐานที่ทั่วโลกใช้อีกต่างหาก สังเกตได้ว่าหลายๆรุ่นที่เปิดตัวที่อเมริกาก็ไม่มี 4G 2100MHz นั่นเอง
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ เห็นว่าจะมีการเปิดศูนย์ให้ข้อมูล หรือเว็บไซต์ต่างๆสำหรับลูกค้าที่ใช้แล้วมีปัญหาการใช้งานให้สามารถแจ้ง หรือสอบถามปัญหาได้อย่างละเอียดในเร็ววันนี้ ซึ่งก็น่าจะช่วยให้ปัญหาต่างๆลดลงได้มาก แทนที่จะต้องให้ด่าๆๆๆๆๆๆๆออกสื่อ หรือไปโพสต์ลงมหานครดราม่าให้เหล่า Online Call Center รับเละกันไปอย่างเดียวครับ
เท่านี้ครับที่เอามาแชร์กัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่ใช้ Dtac กันนะครับ ส่วนผมตอนนี้ก็เลิกใช้ไปแล้วหลังจากเป็นลูกค้าอยู่หลายปี 555 ยังไงก็ขอเชิญเพื่อนๆเข้ามาแชร์ความเห็นกันได้เต็มที่ครับว่าคิดยังไงบ้างกับข้อมูลที่ทาง Dtac ตอบมาให้นี้ ถูกใจหรือไม่ถูกใจอย่างไรบ้างครับ
ขอขอบคุณข่าวสารดีๆ จาก http://www.droidsans.com