“สิว” เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น บนผิวหนัง บริเวณที่มีต่อมไขมัน มากได้แก่ใบหน้า แผ่นหลัง และหน้าอก สิวเกิดจากภาวะ ที่เซลล์รูขุมขน ถูกอุดตันจากสิ่งแปลกปลอม เช่น ถูกอุดตันจากไขมัน จากสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง
นอกจากนี้ ฮอร์โมนเพศ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง โดยเฉพาะในวัยรุ่นฮอร์โมนเพศมีฤทธิ์ กระตุ้นให้ต่อมไขมัน ขับไขมันส่วนเกินออกมา จนเกิดการอุดตันเกิดขึ้น สิวบนใบหน้า สร้างความหงุดหงิด รำคาญใจ
ยิ่งจิตใจกังวล จะยิ่งทำให้สิวกำเริบหนักขึ้น อีกทั้งการดูแล และปฏิบัติไม่ถูกต้อง ยิ่งทำให้สิวกลายเป็นปัญหา ใหญ่ลุกลาม จนสูญเสียความงาม บนใบหน้า ทำให้หลายคนเสียความมั่นใจในการพบปะผู้คน
คำแนะนำสำหรับ วิธีลดสิว และ ป้องกันไม่ให้เกิดสิว
- หลีกเลี่ยงอาหาร ที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวมัน
- กรณีผิวหน้ามัน ควรซับมันออกจากผิวหน้าด้วยกระดาษซับ
- ควรสระผมบ่อยๆ อย่าปล่อยให้ผมมัน และลงมาปรกตามใบหน้า พร้อมทั้งหลีกเลี่ยง การใช้น้ำมันใส่ผมหรือโฟมแต่งผม
- อย่าใช้มือที่สกปรกสัมผัสใบหน้า
- ควรล้างหน้าด้วยน้ำยาล้างหน้าอย่างอ่อน (gentle cleanser) ที่ไม่มีฟอง อย่าใช้สบู่ล้างหน้า เพราะความเป็นด่าง ของสบู่ระคายผิว และก่อให้เกิดสิว
- ควรล้างหน้า เพียงวันละ 2-3 ครั้ง ดูความจำเป็น ตามลักษณะผิวหรือ ตามสภาพแวดล้อม การล้างหน้ามากเกินไป หรือบ่อยๆ จะทำให้ต่อมไขมัน ทำงานมากขึ้น เพื่อผลิตไขมันมากจนผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตัน ของไขมันกลายเป็นสิวได้
- หลีกเลี่ยงสาเหตุ ที่ทำให้เกิดสิว เช่น เครื่องสำอาง หรือครีมกันแดด ที่เพิ่มความมันบนใบหน้า
- หากมีความจำ เป็นต้องใช้เครื่องสำอาง หรือโลชั่น ควรเลือกใช้เครื่องสำอาง ที่ปราศจากน้ำมัน (oil free) หรือโลชั่นที่ระบุว่า ไม่ก่อให้เกิดสิว (non-acnegenic) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedongenic)
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอนหรือนอนดึก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียดหรือวิตกกังวลเกินไป เพราะความเครียด จะกระตุ้นให้ต่อมไขมัน หลั่งไขมันออกมามากขึ้น
- อย่าให้เกิดอาการท้องผูก เพราะเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิดสิวได้ เนื่องจากอาหาร ที่คั่งค้างอยู่ในท้องเป็น ของเสียที่ร่างกาย ไม่ต้องการ ทำให้เกิดปฏิกิริยา ที่ทำให้เกิดสิวได้
คำแนะนำ สำหรับผู้ที่เป็นสิว
- อย่าบีบ หรือแกะหัวสิวให้แตก เพราะจะทำให้อักเสบมากขึ้น หายช้าลง และเกิดแผลเป็น
-
ในกรณีที่เป็นสิว หัวหนองขนาดใหญ่ หรือมีอาการอักเสบมาก ควรพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง จะได้ไม่เกิดแผลเป็น
วิธีลดสิว ด้วยวิธีธรรมชาติ
ปกติแล้ว เวลาคนเราเป็นสิว จะมีพฤติกรรมหลักๆอยู่ 2 แบบ แบบแรก จะรู้สึกร้อนใจ กลัวหน้าไม่ใส รีบวิ่งไปหาหมอทันที เพื่อให้หมอสั่งยามาให้ สำหรับรักษาสิว ไม่ว่าจะเป็นยาทา ยาทาน หรือฉีดยา
และคนอีกแบบคือ คนประเภทที่เวลาเป็นสิว สิวขึ้นแล้วเฉยๆ ชอบที่จะอยู่นิ่งๆ รอให้หายไปเอง ส่วนใหญ่คนแบบที่สอง หน้าจะไม่ใส เพราะไม่ค่อยดูแลตนเองเท่าไรนัก และมักจะลงเอยด้วยการไปหาหมออยู่ดี
เนื่องจากสิว ที่ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ รับรักษาค่อยๆ ลุกลาม ติดเชื้อทำให้เกิด การอักเสบ พอเป็นมากๆ เข้าก็ต้องไปหาครีม ทาสิวมาทา หรือไม่ก็ไปคลินิครักษาสิว คนที่มีลักษณะแบบที่สอง หรือคนที่ไม่ชอบไปหาหมอ
เพราะคิดว่ายุ่งยาก เสียเวลา ไม่ชอบออกจากบ้าน เปลืองค่ารักษา ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ มันมีวิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติอยู่ค่ะ ทีนี้ก็ไม่ต้องไปหาหมอ เพราะเราจะไม่ปล่อยให้สิวที่เราเป็นนั้นเกิดลุกลาม และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ให้คลินิคฟรีๆ ให้คลินิคอีกด้วย แต่จะเวิร์คเท่ากับการ ไปหาหมอหรือไม่ ก็ต้องลองดูกัน
” วิธีลดสิว “ ด้วยวิธีธรรมชาติ จะเน้นไปที่การปรับเปลี่ยน พฤติกรรมที่ทำให้เกิดสิว คือเป็นการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดสิวมากขึ้น หรือจากที่เป็นอยู่ ก็อาการน้อยลงไม่อักเสบ เป็นหนองมากขึ้น และจะเน้นไปที่การใช้พืชสมุนไพรในการรักษาสิว เริ่มกันเลยค่ะ
วิธีลดสิว แบบธรรมชาติ โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
บางครั้งอาจจะไม่ถึง แต่ที่สำคัญต้องห้าม ลืมดื่มตอนเช้า 1 แก้ว และก่อนนอน 1 แก้ว เพราะน้ำช่วย ในการทำให้ผิวยืดหยุ่น หลายคน คงเคยได้ยินว่า การที่ล้างหน้าบ่อยๆ หน้าแห้งเกินไป ทำให้สิวขึ้น ใบหน้าของคนเรา มีน้ำอยู่ต้องคอยเติมเข้าไป ให้พอดีตลอดเวลา
การนอนดึก ก็คือการอดนอน หลายคนเข้าใจว่า จะนอนกี่โมงไม่สำคัญ ขอให้นอนครบ 8 ชั่วโมงก็พอ นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด การวิจัยมัก จะบอกให้นอนแต่หัวค่ำ และตื่นเช้าๆ เพราะเค้ามี
การวิจัยกันมาแล้วว่า แต่ช่วงเวลา อวัยวะไหน จะทำงานได้ดีที่สุด การนอนหลังเที่ยงคืน ถึงแม้จะนอนครบชั่วโมง ก็ไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะหลังเที่ยงคืน เส้นเลือดของเรา ได้ตีบได้ไปแล้ว
การทานอาหารมันๆ หรืออาหารที่มีน้ำมันเยอะ ทำให้น้ำมันบนใบหน้า เยอะขึ้นตามไปด้วย เป็นสาเหตุ ให้เกิดการอุดตัน ในรูขุมขนเกิดเป็นสิวเสี้ยน
- หลีกเลี่ยงฝุ่นควัน และล้างหน้าให้สะอาด
พยายามหลีกเลี่ยงมลพิษ หรือสถานที่ที่มีฝุ่นเยอะๆ เนื่องจากเป็นการเพิ่มโอกาส ติดเชื้อแบคทีเรีย บนใบหน้า พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะเป็นปัจจัย ที่ทำให้เกิดสิวผด หากหลีกเลี่ยงไม่ได้
พอกลับบ้านมา ให้รีบทำความสะอาด ใบหน้าทันที แต่อย่าทำความสะอาดหน้า ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าอย่าง โฟมล้างหน้า เกินวันละ 2 ครั้ง เพราะจะทำให้หน้า แห้งเกินไป ทางที่ดีให้ใช้น้ำเปล่าล้างหน้า และซับให้แห้ง
- รักษาความสะอาดของเครื่องนอน
ทำความสะอาดเครื่องนอน อย่างปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม เป็นสิ่งที่เราสัมผัส กับผิวเราโดยตรงเป็นประจำทุกวัน และเป็นเวลานาน ดังนั้นเราต้องทำความสะอาดบ่อยๆค่ะ
- การรักษาสิวแบบธรรมชาติ โดยใช้พืชสมุนไพร
1. การใช้น้ำมะนาว
นำมะนาวมาคั้นให้ได้น้ำมะนาว จากนั้นนำมาชุบสำลี หรือ Cottonbud เพื่อแต้มสิว วิธีนี้เชื่อว่าจะเห็นผลภายใน 2 อาทิตย์
2.การใช้โยเกิร์ตผสมน้ำผึ้ง
ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาตินะ โยเกิร์ตสดเลยยิ่งดี แต่หายากหน่อย จากนั้นนำมาผสมกัน อย่างละครึ่งเลย แล้วนำมาพอกหน้า หรือแต้มสิว วิธีนี้พบว่า ทำให้หน้าดูขาว สว่างขึ้น และผิวหน้าชุ่มชื้น เห็นผลใน 1 สัปดาห์
3.น้ำมันมะกอกและมะนาว
นำทั้งสองอย่างมาผสมกันอย่างละเล็กน้อย แล้วนำมาป้ายสิว ไม่ต้องนานมาก ประมาณ 2-5 นาทีแล้วล้างออก
เกร็ดความรู้
การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้แต่งหน้า และเป็นผดผื่น แต่ถ้าผิวหน้ามัน แต่งหน้า คงต้องใช้ผลิตภัณฑ์ ล้างหน้าล้างสิ่งสกปรก ออกได้ดีและ ไม่ดึงไขมันออกมากจน เกินไป ค่า PH ประมาณ 5-7 ดีที่สุด
โดยรวมควรเป็น สบู่เหลวมากกว่าสบู่ก้อน แต่จะเป็นผลิตภัณฑ์ไหน คงต้องพิจารณาฉลาก หรือสอบถามแพทย์เภสัชกร ส่วน ใหญ่มากกว่า 50 % ของคนไข้ที่มาพบแพทย์มักจะมาด้วยเรื่องสิว และมากกว่า 80% ของคนไข้เหล่านั้น
ก็จะอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาวและน้อยกว่า 5% จะพบหลังอายุ 35 ปี พอเริ่มเข้าวัยรุ่นฮอร์โมน จะกระตุ้นให้เกิดสิว เริ่มด้วยสิวอุดตันเปลี่ยน เป็นสิวอักเสบ และก็สิวหนอง และก็ทิ้งรอยดำกับแผล เป็นหลุม
แสงแดดแรงๆ สารเคมี ฝุ่นละออง และอากาศที่แห้ง ก็มีส่วนทำให้เกิดสิว ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น ถ้าเราเข้าใจสาเหตุ และกระบวนการเกิดสิว คงจะสามารถป้องกัน การเกิดสิวรวมทั้งหลุมและรอยดำที่จะเกิดขึ้น
ไม่ต้องช้ำใจ ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลามากๆ ในการรักษารอยดำ และหลุม รวมทั้งไม่ต้องเสี่ยงกับ การรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี นอกจากจะไม่หายแล้ว ยังอาจจะเพิ่มปัญหาอื่นๆ บนใบหน้าอีกด้วย